ความเป็นมาของกลุ่มวิสาหกิจชุมชนปันบุญ
ในปี พ.ศ. 2552 ทีมวิจัยไทบ้านดอนแคนจำนวน 12 คน ร่วมกับ กศน.ตำบลฆ้องชัยพัฒนา และสำนักงานเกษตรอำเภอฆ้องชัย ได้ทำงานวิจัยเรื่องแนวทางการส่งเสริมการปลูกข้าวปลอดสารพิษ สืบเนื่องจากการปัญหาสุขภาพของชาวบ้านดอนแคนที่มีความเจ็บป่วยด้วยโรคร้ายแรงเพิ่มมากขึ้น สาเหตุที่ค้นพบในรายงานการวิจัยคือการประกอบอาชีพและการบริโภคอาหารที่มีสารพิษตกค้าง เนื่องจากชาวบ้านดอนแคนส่วนใหญ่มีอาชีพทำนาและมีการใช้สารเคมีในการปราบศัตรูพืชเป็นจำนวนมาก จึงทำให้มีสารเคมีตกค้างทั้งในดิน น้ำ อากาศ และในผลิตผล รายงานผลการวิจัยได้เสนอทางออกให้กับชาวนาโดยการให้เกษตรกรหันกลับมาทำเกษตรอินทรีย์แทนเกษตรเคมี ลด ละ เลิก การใช้สารเคมี เพื่อสุขภาพของตัวเองและผู้บริโภค
แกนนำชาวบ้านดอนแคนกลุ่มหนึ่งตระหนักถึงปัญหาที่เกิดขึ้น และด้วยปณิธานอันแน่วแน่ในการที่จะแก้ไขปัญหาให้กับชาวนาจึงมีการรวมตัวกันตั้งกลุ่มเกษตรอินทรีย์ขึ้นมา ทำเกษตรอินทรีย์ใช้เวลา 5 ปีจึงผ่านกระบวนการและได้รับใบรับรองผลิตภัณฑ์พืชอินทรีย์มาตรฐานประเทศไทย(Organic Thailand) จากกรมวิชาการเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และได้ก่อตั้งวิสาหกิจชุมชนปันบุญ ขึ้นเมื่อ วันที่ 1 ตุลาคม 2555 มีสมาชิกจำนวน 35 ราย ได้ดำเนินกิจกรรมการผลิตพืชอินทรีย์ควบคู่ไปกับการเป็นศูนย์เรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียง มีการถ่ายทอดและฝึกอบรมความรู้ให้กับเด็ก เยาวชนและผู้ที่สนใจทั่วไป
การผลิตข้าวกล้อง
วัตถุดิบและส่วนประกอบ
1. ข้าวกล้องพันธ์มะลิ 105 ที่ผ่านการสีและคัดกรองสิ่งเจือปน
2. ถุงพลาสติกสำหรับบรรจุขนาดต่างๆ
3. เครื่องซีลสูญญากาศ และเครื่องซีลธรรมดา
ขั้นตอนการผลิต
ขั้นที่ 1 ขั้นเตรียมวัตถุดิบ
เตรียมพื้นที่ทำการปลูกข้าวนาปี คัดพันธุ์ข้าวปลูกที่มีคุณภาพเมล็ดพันธุ์ข้าวปลูกเป็นพันธุ์มะลิ 105 ข้าวที่ปลูกจะไม่ฉีดยาฆ่าแมลงและใส่ปุ๋ยวิทยาศาสตร์ แต่จะใช้ปุ๋ยหมักชีวภาพ จึงเป็นข้าวไร้สารพิษ
ขั้นที่ 2 ขั้นสีข้าวกล้อง
นำข้าวเปลือกที่ได้จากแปลงที่นาที่ทำการเก็บเกี่ยวแล้วไปตากแดดให้แห้งแล้วนำข้าวเปลือกไปสีโดยเครื่องจักรสีข้าวกล้อง
ขั้นที่ 3 ขั้นทำความสะอาด
นำข้าวกล้องที่สีได้แล้ว มาทำความสะอาดโดยวิธีเป่าฝุ่นละอองโดยใช้เครื่อง แล้วนำไปรอนในตะแกรงเพื่อคัดเลือกเมล็ดข้าวกล้องให้ได้ข้าวกล้องที่เป็นตัวร้อยเปอร์เซ็นต์
ขั้นที่ 4 ขั้นเก็บสิ่งเจือปน
เมื่อคัดข้าวกล้องแล้ว สมาชิกกลุ่มจะต้องดำเนินการจัดเก็บสิ่งเจือปนออกจากข้าว
ขั้นที่ 5 ขั้นบรรจุภัณฑ์
เมื่อได้ข้าวกล้องที่สะอาดไร้สิงเจือปนแล้ว จะนำข้าวกล้องไปบรรจุถุงโดยวิธีซีลปากถุงด้วยเครื่องซีลสูญญากาศ
คุณค่าทางอาหาร ประโยชน์และสรรพคุณของข้างกล้อง
ข้าวกล้องมีคุณค่าทางอาหารที่สูงมาก ทำให้ส่วนต่างๆ ของร่างกายทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ดังนี้
1. มีวิตามินบี ป้องกันอาการอ่อนเพลียของกล้ามเนื้อ แขน-ขาไม่มีแรง บำรุงสมอง และช่วยให้เจริญอาหาร
2. วิตามินบี 1 ช่วยป้องกันโรคเหน็บชา
3. วิตามินบี 2 ช่วยป้องกันโรคปากนกกระจอก
4. วิตามินบี 3 หรือไนอะซิน ช่วยป้องกันโรคผิวหนัง และเส้นประสาท
5. แคลเซียม ช่วยบำรุงกระดูกให้แข็งแรง ทำให้ไม่เป็นตะคริวได้ง่าย
6. ฟอสฟอรัส ทำให้กระดูกและฟันแข็งแรงเจริญเติบโตได้ดี
7. เหล็ก ช่วยป้องกันโรคโลหิตจาง
8. โปรตีน ช่วยเสริมสร้างส่วนที่สึกหรอของร่างกาย
9. ไขมัน ช่วยให้ความอบอุ่นแก่ร่างกาย เพราะเป็นไขมันดีจึงไม่มีคอเลสเตอรอล
10. คาร์โบไฮเดรต ช่วยให้พลังงานแก่ร่างกาย
11. ทองแดง ช่วยในการสร้างเฮโมโกลบินในเม็ดเลือดแดง
12. โพแทสเซียม ช่วยให้หัวใจเต้นเป็นปกติ และควบคุมความสมดุลของน้ำในร่างกาย
13. ซีลีเนียม มีสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยชะลอความแก่
14. กากใยอาหาร ช่วยให้ท้องไม่ผูก และป้องกันดรคมะเร็งในลำไส้
วิธีการหุงข้าวกล้อง
1. เก็บสิ่งสกปรกที่แปลกปลอมออก ซาวน้ำเพียงครั้งเดียว
2. ใส่น้ำปริมาณมากกว่าการหุงข้าวขาว เพราะใช้เวลาหุงนานเนื่องจากมีเยื่อหุ้มเมล็ดทำให้ดูดซึมน้ำได้ยากกว่า
3. ควรแช่ข้าวกล้องก่อนหุงประมาณ 5 – 10 นาที ข้าวจะหอมนุ่มน่ารับประทาน
4. ควรรับประทานขณะอุ่นข้าวจะนุ่มกว่ารอให้เย็น และควรรับประทานให้หมดในมื้อนั้นๆ เพราะจะบูดได้ง่ายกว่าข้าวขาว
❤❤❤❤❤❤❤❤❤❤❤❤❤❤❤❤❤❤❤❤❤❤❤❤❤❤❤❤❤❤❤❤❤❤❤❤❤❤❤❤❤❤❤❤❤
